วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สาเหตุที่ไม่ควรให้ลูกติดสื่อออนไลน์

       

        1.สร้างให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใหัเกิดขึ้น มีเด็กๆ หลายคนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะสื่อออนไลน์ เช่น ลูกเห็นว่าเพื่อนๆลงรูปแต่งตัวโป๊ วับๆ แวมๆ ลงตามสื่อออนไลน์ต่างๆ แล้วมีคนให้ความสนใจกด like จำนวนมาก เด็กก็เลยอยากจะเป็นที่สนใจเช่นนั้น ก็เลยนำรูปถ่ายวับๆ แวมๆ ของตนเองลงตามสื่อออนไลน์ต่างๆ บ้าง ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและอาจมีผลกระทบต่อการเรียนและการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมของลูกได้
      
       2.อาจตกเป็นเหยื่อของพวกผู้ร้ายหรือผู้ที่ไม่ประสงค์ดี พวกคนร้ายมักแฝงตัวอยู่ในสังคมออนไลน์ เพราะมันสามารถทำความผิดได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง การรับบุคคลใดเป็นเพื่อนผ่านเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือโปรแกรมสนทนาออนไลน์โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อาจเป็นช่องทางให้ถูกหลอกลวง ซึ่งแน่นอนว่าอาจเกิดความไม่ปลอดภัยและเกิดผลเสียต่อลูกได้ เช่น การหลอกนัดให้ออกมาเจอตัวกันจริงๆ แล้วพาไปล่วงละเมิดทางเพศ หรือชิงทรัพย์ หรือไม่เช่นนั้นอาจเป็นช่องทางให้คนที่คิดไม่ดีกับเด็ก ใส่ความในทางที่อาจเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เช่น การนำรูปเด็กไปตัดต่อ การนำข้อมูลส่วนตัวของเด็กไปใช้ในทางที่เสียหาย
      
       3.ทำให้หมดเปลืองเวลาโดยไร้ประโยชน์ หากเทียบกับผู้ใหญ่ที่หมกมุ่นอยู่ในสื่อออนไลน์ การแชทผ่านทางวอทช์แอป ไลน์ การเข้าไปดูข่าวสารหรือการเข้าไปดูยูทิวบ์ ยังสามารถทำให้เสียเวลาเสียงานเสียการไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นสักแค่ไหนสำหรับลูกซึ่งยังเป็นเด็กอยู่ในวัยที่ไม่สามารถควบคุมตัวเอง อารมณ์และความต้องการได้ จะยิ่งตกเป็นทาสของสื่อออนไลน์มากยิ่งไปกว่าผู้ใหญ่เสียอีก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเข้ามาช่วยควบคุมลูกในเรื่องของเวลาในการเล่นสื่อออนไลน์อย่างจริงจัง เช่น กำหนดให้ใช้โทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ตได้หลังจากทำการบ้าน อ่านหนังสือทบทวนบทเรียนเรียบร้อยแล้ว หรือกำหนดจำนวนชั่วโมงที่จะให้ใช้ได้ จะช่วยให้เด็กไม่ติดกับมันมากเกินไปและทำให้เขามีเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นมากขึ้น
      
       4.ทำใหัละเลยกิจกรรมที่มีประโยชน์ การใช้เวลากับอินเทอร์เน็ต หรือสมาร์ทโฟนมากเกินไป ทำให้เด็กไม่ได้ทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ที่ควรจะทำตามวัย เช่น ออกกำลังกาย ทำงานบ้าน พูดคุยกับครอบครัว รวมถึงการทำงานเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม
       
       5.ลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมาย มีเว็บไซต์มากมายที่เป็นช่องทางแห่งอบายมุขและการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เช่น การค้าประเวณี การขายยาเสพติด การพนันออนไลน์ ซึ่งหากลูกเข้าไปดูไปชมเว็บไซต์เหล่านี้ก็อาจถูกชักชวนให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีเหล่านี้ได้ ด้วยความที่เด็กๆ เป็นวัยที่อยากรู้ อยากเห็น อยากเป็น อยากลอง ก็อาจทำให้ถูกหลอกล่อได้ง่าย
      
       6.เป็นสื่อสกปรกที่ใช้ทำร้ายกันได้ไม่ยาก สังคมออนไลน์เป็นแหล่งของการหลอกลวงที่ใหญ่มาก เด็กๆ จะได้อ่านข้อความใส่ร้าย โจมตี หยาบคาย ลามก ตลอดจนการลงรูปภาพผ่านทางสื่อออนไลน์ที่อาจจะเป็นรูปภาพที่แต่งเติมตัดต่อเพื่อใช้ประจานหรือกลั่นแกล้งผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งจะทำให้ลูกซึมซับความก้าวร้าว รุนแรง ผ่านสื่อเหล่านี้ไปอย่างไม่รู้ตัว
      
       จริงๆ แล้วสื่อออนไลน์เป็นสื่อที่มีประโยชน์มากหากเรานำมาใช้ในการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ หรือนำมาใช้ให้เกิดความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร แต่หากใช้มันเพื่อทำการไม่ดี หรือใช้อย่างหมกมุ่นมั่วสุมเกินกว่าความจำเป็น ก็อาจเป็นโทษได้อย่างมากมายเช่นกัน



ที่มา : http://www.manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น